ว่าด้วย "รหัสลับ" สงครามโลก

ว่าด้วย "รหัสลับ" สงครามโลก
Friday, September 18, 2015 - 00:01

มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "รัฐบาลโลก" ค้นคว้าเรียบเรียงโดยคุณ "เปรมศักดิ์ จีระแพทย์" อ่านมาร่วม ๒๐ ปีแล้ว เป็นการตีแผ่จักรวรรดิอำนาจ จากศตวรรษ ๒๐ สู่ศตวรรษ ๒๑ ใต้กลไก ลัทธิ-ศาสนา-องค์กร น่าสะพรึง น่าศึกษา

เรื่องราวที่คุณเปรมศักดิ์ค้นมาเปิดเผยไว้นั้น เป็นอย่างไร ขอบอกว่า โลกปัจจุบัน...วันนี้ เป็นไปตามนั้น....เป๊ะ

โดยเฉพาะเค้าเงื่อนสู่ "สงครามโลกครั้งที่ ๓"!

ไม่ทราบตัวตนว่า "เปรมศักดิ์ จีระแพทย์" คือใคร หลายเดือนก่อน ผมคุยประเด็น CFR รัฐบาลโลก ได้เอ่ยถึงชื่อและหนังสือของท่าน มีคนสนใจโทร.มาถามว่า จะหาอ่านได้จากที่ไหน

ผมก็จนปัญญา ถ้าจำไม่ผิด คุณสนธิ สารธรรม ที่เขียนคอลัมน์ "สู่ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่" ในฉบับวันเสาร์ ไทยโพสต์ ซื้อมาให้ประมาณปี ๒๕๔๒ ซึ่งมันนาน จนหาหนังสือในท้องตลาดไม่ได้แล้ว

จู่ๆ วันก่อน คุณเปรมศักดิ์โทร.มาหา ขอบคุณที่ผมอ้างเอ่ยถึงท่านและหนังสือที่ท่านเขียน ผมถาม...จะหาซื้อหนังสือได้ที่ไหน ท่านบอก...ตามร้านไม่มีแล้ว

มีแต่ที่ "เก่าเก็บ" หลังเหลือจำหน่ายอยู่ที่บ้าน คือเรื่อง นับถอยหลังสู่สงครามโลก ครั้งที่ ๓ และรัฐบาลโลก

ผมก็ว่า เป็นหนังสือค้นคว้าประวัติศาสตร์ "ถึงราก" อันหาอ่านจากที่ไหนยาก เอาขายราคาวิทยาทานให้ผู้สนใจ ดีกว่าเก็บไว้เฉยๆ ท่านฟังก็...เฉยๆ

วานซืน ท่านโทร.มาบอก...โอเค

ฉะนั้น คอหนังสือประเภทนี้ ติดต่อพูดคุยกับคุณเปรมศักดิ์โดยตรง ที่เบอร์ 08-1813-3904 Line ID : premsakjeerapaet

และท่านเขียนเป็นการปูพื้น "นับถอยหลังสู่สงครามโลกครั้งที่ ๓" จากสถานการณ์โลกปัจจุบัน ส่งอีเมลมาให้อ่าน ดังนี้

1.คัมภีร์ไบเบิลพยากรณ์สงครามโลกครั้งที่ 3

เพื่อปูพื้นฐานให้เกิดความเข้าใจ ขออธิบายว่า คัมภีร์ไบเบิลได้พยากรณ์ไว้แต่ปี 530 ก่อนคริสต์ศักราช โดยดาเนียล ผู้พยากรณ์ และพระเยซูคริสต์ได้ยืนยันอีก (มัทธิว 24 : 15-22) ในราว ค.ศ.30

เป็นคำพยากรณ์เหตุการณ์น่าจะเกิดราวปี ค.ศ.2015 เป็นต้นไปตามลำดับ โดยมีกลุ่มศาสนิกที่เกี่ยวข้องคือ ยิว (ยูดาห์) คริสเตียนและอิสลาม โดยจะลากเอาประเทศมหาอำนาจมาเกี่ยวข้องกัน เช่น จีน สหรัฐอเมริกา รัสเซีย สหภาพยุโรป อิสราเอล เยอรมนี อังกฤษ ฯลฯ

2.อิสราเอลจะเป็นชนวนสำคัญ

ถึงแม้ยังไม่ปรากฏวี่แววชัดเจน ว่าอิสราเอลจะมีส่วนสำคัญในการก่อไฟสงคราม แต่หากขุดลึกไปนิดเดียว เราก็จะเห็น แท้จริงอิสราเอลอยู่เบื้องหลังสหรัฐ และสิ่งที่ปรากฏอยู่ขณะนี้ว่า จีน-รัสเซีย กำลังแสดงท่าทียั่วยุ คุกคามประเทศ EU ซึ่งรวมถึงสหรัฐ

เช่น รัสเซีย บุกเข้ายึดไครเมีย ดินแดนของยูเครน เมื่อมีนาคม 2014 จีนอวดแสนยานุภาพทางทหารวาระครบรอบชัยชนะ 70 ปี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกันยายน 2015

โดยแสดงแสนยานุภาพไม่เกรงกลัวอเมริกา อีกทั้งยังส่งเรือรบ 5 ลำไปแถว Alaska เมื่อ 2 กันยายน 2015 ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามากำลังเดินทางศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่นั่น แสดงให้เห็นว่า จีนมั่นใจแสนยานุภาพทางทหารของตน

อีกกรณี คือ 10 กันยายน 2015 Putin ส่งเครื่องบินรบ Blackjack 2 ไปบินแถวน่านฟ้าอังกฤษ เหมือนหยั่งเชิงและส่งสัญญาณว่า Russia ไม่กลัวเกรงอังกฤษ

ฉะนั้น หากเกิดสงคราม ผลลัพธ์กระทบถึงอิสราเอลแน่

3.อิสราเอลอยู่เบื้องหลังสหรัฐ

ตามเป็นจริงนั้น นักการเมืองสหรัฐอยู่ใต้การสนับสนุนอภิมหาเศรษฐี-นักการธนาคารอิสราเอล นายทุนก่อตั้งสถาบันการเงิน รวมถึงองค์การต่างๆ ในสหรัฐและยุโรป ล้วนเป็นคนเชื้อสายยิว (อิสราเอล) เช่น

- Rotschild กลุ่มอิทธิพลสูงด้านการเงิน การธนาคารจากยุโรป รวมทั้งเข้ามาก่อตั้งธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Federal Reserve)

- Rockefeller Empire (อาณาจักรร็อกกี้เฟลเลอร์) ผู้ก่อตั้งธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่ง กิจการน้ำมัน สายการบิน อุตสาหกรรมรถยนต์ รวมทั้งกิจการใหญ่อีกมากมาย

กลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ รวมตัวก่อตั้งมนตรีแห่งความสัมพันธ์ต่างประเทศ (Council on Foreign Relations – CFR) I.M.F และ World Bank

เป้าหมาย CFR คือผนวกรวมประเทศต่างๆ ในโลกรวมทั้งสหรัฐเข้าสู่ภายใต้การปกครองรัฐบาลหนึ่งเดียวของโลก หากท่านผู้อ่านจะจับตาสังเกตหลายครั้ง เมื่อมีการแถลงของนักการเมืองคนสำคัญ

ฉากด้านหลังจะสำแดงข้อความ “Council on Foreign Relations” (CFR) โดยไม่มีคำชี้แจงอย่างเด่นชัดว่า “CFR” นี่คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไร?

อย่างไรก็ตาม อุดมการณ์ของ “ว่าที่รัฐบาลโลก” มิใช่จะสำเร็จโดยง่าย เพราะมีขั้วอำนาจคอยถ่วงดุลอยู่ จะจัดกลุ่มเรียงลำดับให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยสรุปว่าโลกขณะนี้ มีขั้วอำนาจอยู่ 4 ขั้ว

ขั้วที่ 1 สหรัฐอเมริกา ประสานกับอิสราเอล

ขั้วที่ 2 รัสเซีย จีน ประสานนโยบายร่วมกัน

ขั้วที่ 3 โลกมุสลิม ได้แก่ ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม แต่มีความเป็นปรปักษ์กับขั้วที่ 1 อย่างรุนแรง เช่น ซีเรีย อิหร่าน จึงเป็นการง่ายที่จะร่วมประสานกับขั้วที่ 2

ขั้วที่ 4 กลุ่มคณะบุคคลและประเทศที่พยายามวางตัวเป็นกลาง พยายามปฏิบัติตนดุจรัฐบาลโลก ได้แก่ สหภาพยุโรป

แต่พวกเขาจะทำอย่างไร ผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร จะนำเสนอในโอกาสต่อไปเป็นช่วงๆ

4.ศาสนสถานจะเป็นต้นเหตุสงคราม

ชาวยิวได้ตั้งวิหารศาสนสถานหลังแรกในปี 940 ก่อนคริสต์ศักราชในเยรูซาเลมตะวันออก เรียกว่าวิหารโซโลมอน ต่อมาถูกทำลายโดยชนชาติบาบิโลน ในปี 606 ก่อนคริสต์ศักราช และชาวยิวได้รับอนุมัติจากกษัตริย์เปอร์เซีย ซึ่งชิงความเป็นมหาอำนาจจากบาบิโลน แล้วมาสร้างวิหารขึ้นใหม่ในปี 536 ก่อนคริสต์ศักราช

จนกระทั่ง ค.ศ.70 หลังจากพระเยซูถูกรับขึ้นไปแล้ว วิหารถูกทำลายอีก โดยกองทัพโรมัน เหลือแต่ซากกำแพงด้านตะวันตกที่ยังหลงเหลืออยู่ ส่วนชาวยิวนั้นถูกขับไล่กระจัดกระจายไปทั่วโลก

และในปี ค.ศ.639 ถึง 641 ชาวอาหรับมุสลิมได้สร้างสุเหร่าอัลอัคซอและโดมศิลาทับลงบนซากวิหารชาวยิวที่ถูกทำลายโดยทหารโรมัน

ในปี ค.ศ.1948 ชาวยิวได้กอบกู้เอกราชจากชนชาติอาหรับและยึดครองเยรูซาเลมตะวันตก ต่อมาในปี ค.ศ.1967 ได้ตีดินแดนเยรูซาเลมตะวันออก พร้อมภูเขาวิหาร Temple Mount ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุเหร่าอัลอัคซอ โดมศิลา และฐานรากวิหารโซโลมอนของยิวคืนมาได้

ก้าวต่อไปคือ รอคอยโอกาสที่จะสร้างวิหารของยิวขึ้นใหม่ ซึ่งจะต้องเปิดศึกกับชาวมุสลิมแน่นอน เพราะไปกระทบกับสุเหร่าอัลอัคซอศาสนสถานมุสลิม แม้ผลสำรวจล่าสุดระบุ หากจะสร้างวิหารของยิวขึ้นใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องรื้อถอนสุเหร่าอัลอัคซอและโดมศิลาทิ้งก็ตาม

เพราะฐานรากดั้งเดิมของวิหารโซโลมอนนั้น ตั้งประชิดติดกับสิ่งก่อสร้างทั้งสองของมุสลิม

5.รากเหง้าศาสนายิว คริสต์ และอิสลาม

เพื่อเห็นภาพชัดเจน ขอเริ่มต้นจากบุคคลแรก เขาผู้นั้นคือ อับราฮัม ชื่อเดิมอับราม ส่วนมุสลิมเรียกอิบรอฮิม ในปี1921 ก่อนคริสต์ศักราช เขานอบน้อมการทรงเรียกของพระเจ้าให้อพยพออกจากแผ่นดินเคลเดีย บาบิโลน เพื่อมาครอบครองแผ่นดินใหม่ และตั้งศาสนาใหม่

อับราฮัมมีภรรยาชื่อ ฮาการ์ เชื้อสายเธอเป็นชาวต่างเผ่าพันธุ์ เธอให้กำเนิดลูกคนแรกชื่อ อิชมาเอล (ในเวลาต่อมาเชื้อสายอิชมาเอล เป็นต้นกำเนิดศาสนาอิสลามแห่งชนชาวมุสลิม)

ถัดมา 14 ปี หลังจากอิชมาเอลถือกำเนิด อับราฮัมได้ให้กำเนิดบุตรชายจากนางซาราห์ เผ่าพันธุ์เดียวกับอับราฮัม ชื่อ อิสอัค อิสอัค ได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อ ยาโคบ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นอิสราเอล) ผู้ให้กำเนิดบุตรชาย 12 คน แผ่ขยายเป็นชาวอิสราเอลจนถึงปัจจุบัน ศาสนาของพวกเขาเรียก ศาสนายูดาย

อนึ่ง พระเยซูก็ถือกำเนิดมาในพงศ์พันธุ์ยูดาห์ หนึ่งใน 12 เผ่าพันธุ์อิสราเอล

ทั้งนี้ พระเยซูได้ก่อตั้งแนวทางปฏิบัติจริยธรรมแห่งชีวิตภายในจิต-วิญญาณ, ผู้ใดที่รับเชื่อและดำเนินตามทางนั้นจะถูกเรียกว่าเป็นคริสเตียน

6.ปฏิสัมพันธ์ระหว่างศาสนา

คริสเตียนเป็นกลุ่มรับรู้เข้าใจแนวทางชีวิตและหลักการพระเยซู (พระคัมภีร์ฉบับใหม่ - New Testament) ทั้งยังเข้าใจและให้ความสำคัญต่อศาสนายิวด้วย (พระคัมภีร์เดิม - Old Testament) ตลอดจนเข้าใจรากฐานแห่งศาสนามุสลิม

แต่ศาสนิกยิวยังคงมองข้ามไม่เห็นสาระแก่นสารของคริสเตียน เพราะไม่ศรัทธาในพระเยซู

ส่วนศาสนิกมุสลิมยังให้น้ำหนักความเชื่อถือแก่พระเยซูอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้ คริสเตียนจึงดูประหนึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างยิวและมุสลิม โดยที่มุสลิมและยิวไม่มีปัจจัยช่วยเชื่อมโยงแต่อย่างใดในภาคปฏิบัติ

อนึ่ง จากหัวข้อที่ 4 ตามคำพยากรณ์ไบเบิล วิหารอิสราเอลจะถูกก่อสร้างขึ้นมาได้สำเร็จในอนาคตอันใกล้ แต่ตามคาดการณ์ของผม อาจจะสำเร็จได้โดยการประสานขององค์การสหประชาชาติ และสันตะปาปาแห่งคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

ทั้งนี้ บุคคลพอประสานงานกรณีนี้ได้ คือ ต้องมีอำนาจบารมีสูง ซึ่งผมขอเรียกบุคคลผู้นี้ว่า "ผู้นำรัฐบาลโลก"

แต่ในทันทีที่วิหารนี้ถูกก่อสร้างขึ้น วาระนั้น คือการระเบิดของสงครามโลกครั้งที่ 3!

ครับ...จบความสาระของคุณเปรมศักดิ์ ท่านบอกจะประกบติดแล้วอัพเดตมาให้ทราบเป็นระยะ ก็ติดตามละกัน.

http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2-%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม