เทคนิคการไล่สเตอร์ง่ายๆ ตามประสาคนชอบออกทริป
เทคนิคการไล่สเตอร์ง่ายๆ
ตามประสาคนชอบออกทริป
ผมเชื่อว่าการไล่สเตอร์เป็นอารมณ์การแต่งรถของหลายๆคนที่มักมีคำถามบ่อยๆว่า “ทดสเตอร์เท่าไหร่ดี?” เป็นคำถามยอดฮิตของทุกกลุ่มของคนใช้รถเลยครับ โดยเฉพาะรถในระดับที่อยู่ในช่วงที่ต่ำกว่า
150 ซีซี ที่มักมองถึงเรื่องการ “ทดสเตอร์” เป็นเรื่องแรกในการที่อยากได้กำลังของเครื่องยนต์ให้เป็นไปตามความต้องการ
หรือทำให้รถวิ่งเร็วขึ้น
จริงๆมันก็มีตารางเกี่ยวกับอัตราทดออกมาเยอะแยะเต็มไปหมดครับ
ว่าทดให้ได้อัตราส่วนเท่านั้นเท่านี้แล้วจะวิ่ง แล้วจะไหล บางคนก็ทำตามชาวบ้านเขา
โดยไม่เคยมองถึงตัวเองว่า ผอมกว่าชาวบ้านหรือเปล่า หรืออ้วนกว่าชาวบ้านไปมากแค่ไหน
ได้แต่อ้างอิงเอาแต่ค่าตัวเลขมาเป็นที่ตั้ง ถามว่าผิดไหม? ไม่ผิดครับหากจะเอาแค่ในเรื่องของอัตราทดเฉยๆ
แต่เรื่องของการออกไปวิ่งจริงคืออีกเรื่องหนึ่ง
บทความนี้จะไม่ขออ้างอิงตำราไหนนะครับ
ขอเอาเป็นอะไรที่ง่ายๆให้เข้าใจง่ายๆในการไล่สเตอร์เพื่อการใช้งานประจำวันหรือเพื่อประโยชน์ในการออกทริปก็พอครับ
อย่ามาดราม่ากันหล่ะ
สิ่งที่จะมองก่อนไปปรับเปลี่ยนอัตราทดสเตอร์ก็คือ
1. กำลังของเครื่องยนต์
เป็นสิ่งแรกๆเลยที่มองครับ ว่ารถที่เรามีให้กำลังและอัตราเร่งเป็นยังไงบ้าง แรงเหลือ หรือไม่มีแรง ไม่ใช่สักแต่จะทดสเตอร์ลูกเดียวทดแล้ววิ่งแน่นอน บางทีหากรถเราไม่มีแรงแล้วทดสเตอร์ลงมันอาจจะทำให้รถช้ากว่าเดิม หรืออืดกว่าเดิมได้ง่ายๆครับ
1. กำลังของเครื่องยนต์
เป็นสิ่งแรกๆเลยที่มองครับ ว่ารถที่เรามีให้กำลังและอัตราเร่งเป็นยังไงบ้าง แรงเหลือ หรือไม่มีแรง ไม่ใช่สักแต่จะทดสเตอร์ลูกเดียวทดแล้ววิ่งแน่นอน บางทีหากรถเราไม่มีแรงแล้วทดสเตอร์ลงมันอาจจะทำให้รถช้ากว่าเดิม หรืออืดกว่าเดิมได้ง่ายๆครับ
2. เส้นทางที่ใช้งาน
หลายครั้งที่เราจะเห็นการพูดถึงแต่การปรับเปลี่ยนอัตราทด แต่ไม่เคยมองถึงเส้นทางการใช้งานของแต่ละคนเลย เราไม่ได้ขี่รถแต่ทางเรียบตลอดเวลา บางคนใช้งานแต่ในถนนทางเรียบ ในเมือง ซุปเปอร์ไฮเวย์ ที่มีลักษณะค่อนข้างราบเรียบ บางคนใช้งานในเส้นทางที่ขึ้นลงเขา หรือแม้แต่ในเส้นทางที่คดเคี้ยว ดังนั้นอัตราการทดที่เหมาะสมย่อมต่างกันแน่นอน
หลายครั้งที่เราจะเห็นการพูดถึงแต่การปรับเปลี่ยนอัตราทด แต่ไม่เคยมองถึงเส้นทางการใช้งานของแต่ละคนเลย เราไม่ได้ขี่รถแต่ทางเรียบตลอดเวลา บางคนใช้งานแต่ในถนนทางเรียบ ในเมือง ซุปเปอร์ไฮเวย์ ที่มีลักษณะค่อนข้างราบเรียบ บางคนใช้งานในเส้นทางที่ขึ้นลงเขา หรือแม้แต่ในเส้นทางที่คดเคี้ยว ดังนั้นอัตราการทดที่เหมาะสมย่อมต่างกันแน่นอน
3. ตัวเราเอง
นั่นก็คือตัวผู้ขับขี่ครับ ตัวเราเองสูงต่ำ อ้วนผอมแค่ไหน ซึ่งเราจะใช้จุดนี่เอาไปวัดกับคนอื่นหรืออัตราทดของเขาไม่ได้ 100% ครับ หรือในบางคนต้องเอาแฟนซ้อนไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาทั้งการใช้งานและการออกทริปดังนั้นยิ่งเอาไปเทียบกับคนอื่นไม่ได้ครับ
นั่นก็คือตัวผู้ขับขี่ครับ ตัวเราเองสูงต่ำ อ้วนผอมแค่ไหน ซึ่งเราจะใช้จุดนี่เอาไปวัดกับคนอื่นหรืออัตราทดของเขาไม่ได้ 100% ครับ หรือในบางคนต้องเอาแฟนซ้อนไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาทั้งการใช้งานและการออกทริปดังนั้นยิ่งเอาไปเทียบกับคนอื่นไม่ได้ครับ
เพราะมันมีหลายปัจจัยหลายๆคนเวลาไล่สเตอร์จึงมักเกิดปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
บางคนไล่แล้วรถรอบเหลือ บางคนไล่สเตอร์แล้วไล่รอบไม่ขึ้น อืดลง วิ่งได้ช้าลง
และที่สำคัญบางคนมีอาการบ้าตัวเลขที่แสดงบนเรือนไมล์ ชอบเอาเลขบนเรือนไมล์มาอวดกัน
ทั้งๆที่ในรถหลายๆรุ่น แค่เปลี่ยนสเตอร์ความเร็วบนเรือนไมล์ก็เพี้ยนแล้ว
เพราะแค่การเปลี่ยนไซส์ยางตัวเลขก็ผิดเพี้ยนไปแล้วครับ
เอาเป็นว่าเราไม่คุยเรื่องเลขบนเรือนไมล์ละกันนะครับเดี๋ยวจะไปกันยาว
เอาหล่ะคราวนี้มาดูเทคนิคการไล่สเตอร์แบบง่ายๆโดยจะไม่อ้างอิงตัวเลขนะครับ
เพื่อเอาไว้ประยุกต์ในการไล่สเตอร์รถของเพื่อนๆนะครับ
มันจะมีหลักการจำง่ายๆอยู่ว่า
สเตอร์หน้าเล็กลงต้นมา
สเตอร์หน้าใหญ่ขึ้นรถไหล
สเตอร์หลังเล็กลงรถไหล สเตอร์หลังใหญ่ขึ้นต้นมา
สเตอร์หลังเล็กลงรถไหล สเตอร์หลังใหญ่ขึ้นต้นมา
หลักการจริงๆมันมีแค่นี้เองครับสำหรับการไล่สเตอร์รถมอเตอร์ไซค์
หากเราจำแค่นี้หากเรารู้อาการรถเรา เราก็สามารถมาไล่สเตอร์รถเราได้แล้วครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น