ไลน์ในการเข้าโค้งที่ปลอดภัยที่สุด "Decrease Radius" (สำคัญมากนะครับ)
ไลน์ในการเข้าโค้งที่ปลอดภัยที่สุด "Decrease Radius" (สำคัญมากนะครับ)
ขอบคุณรูปกราฟฟิกสวยๆจาก ด.ช.เอ็ม แซ่เอี๊ยบ แซ่เอี๊ยบ
ขอบคุณ Tanate Kongkatekaew ที่อุสาห์พยายามหารูปมาให้ชม
จะเลิกงานล่ะผมพอมีเวลานิดหน่อย วันนี้เรามาพูดคุยกันเรื่องไลน์ในการเข้าโค้งดีกว่า ผมว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะโดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่พึ่งมาขี่รถได้ไม่นาน หรือสำหรับมือเก่าที่เคยขี่รถมานานมากๆแต่ไม่ค่อยได้ออกทริป
ก่อนอื่นผมขอออกตัวเลยว่าผมขี่รถแนวเรซซิ่งไม่ค่อยเก่ง แค่พอขี่ได้ และที่จะมาพูดถึงในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเรซซิ่งด้วย แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยในการเลี้ยว คือในเรื่องของไลน์ในการเข้าโค้ง เข้ายังไงให้เร็ว เข้ายังไงให้ปลอดภัย และก็จะไม่พูดถึงศัพท์ภาษาอังกิดด้วยว่า โทอิน โทเอ้า อินไลน์ อะไรแบบนั้นเพราะเรียกแบบนั้นแปปเดียวเดี่ยวก็ลืม
มาคุยทีละเรื่อง หลายๆคนนี้คงเคยเห็นรายการแข่งรถในวีวี moto gp ทุกคนจะชินตากับการเข้าโค้งแบบในรูปที่ 1 ที่ผมทำเอาไว้ถ้าภาษาบ้านๆก็ นอก-ใน-นอก ซึ่งหลายคนฝังใจกับไลน์แบบนี้ว่าสัีกวันถ้ากูได้ออกไปเจอโค้งสวยๆเมื่อไหร่กูจะเข้าไลน์แบบรอสซี่ แบบในทีวีเป๊ะๆให้ดู ....ปรากฏว่าแหกโค้งหรือบานโค้งกันเป็นแถว ผมเชื่อว่าหลายคนในนี้มีประสบการณ์แหกโค้งหรือบานโค้งกันมาแล้ว ตัวผมเองก็น่าจะประมาณ 2-3 ครั้งได้ถ้าจำไม่ผิดก็ 2-3 ครั้ง ทำไมเราถึงบานออกไปก็ด้วยสาเหตุหลายสาเหตุ สำหรับมือใหม่เลยคือ
1.เรื่องของสายตา สายตาไม่มองออกไปปลายสุดของทางที่จะเลี้ยว เพราะว่ารถจะวิ่งไปตามที่ตาเรามอง ถ้าเรามองใกล้ๆมันก็วิ่งเข้าหา้ตรงนั้นและหักเลี้ยวออกไปไม่ได้ ถ้าตาเรามองออกไปปลายโค้งรถมันก็จะวิ่งออกไปหาปลายทางออกของโค้ง ซึ่งในเรื่องสายตา การมองผมจะไม่ขอพูดถึงเพราะน่าจะเคยได้ยินกันบ่อยๆแล้วในเรื่องของ การใช้สายตา
2.เรื่องสภาพถนนของเมืองไทย ส่วนมากทางโค้งสวยๆก็ัมักจะอยู่ในอุทยาน ทางราดยางเนียนๆแต่มันก็ชอบมีตะไคร่น้ำเพราะว่ามีน้ำไหลลงมาจากตัวภูเขามาแฉะๆที่ถนน หรือเศษหินเศษหญ้า เศษอ้อย หรือแม้กระทั่งขี้ช้าง หรือสุนัขซึ่งตรงนี้เนี่ยทำให้เราพลาดกันมาหลายคนล่ะ
3.ไปตามไลน์คนเก่งๆ หลายคนชอบบอกว่าอยากเก่งนะเองขี่ตามไอ้นั่นไปเลย มันขี่เก่ง ไอ้ประโยคแบบนี้น่ะทำเจ็บกันมาหลายคนแล้วครับ คำว่าฝึกตามไลน์มันใช้ได้กับคนที่เต็มใจจะสอนเราในสนามแข่งเท่านั้นเช่นครูฝึกบอกว่า เอ้าทุกๆคน เดี่ยวครูจะขี่นำไลน์ช้าๆนะให้ทุกคนขี่ตามเพื่อศึกษาไลน์และดูไลน์ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าขี่ตามไลน์ได้ คือมีคนเต็มใจจะี่นำช้าๆเพื่อให้เรารู้ไลน์ว่าวิ่งชิดฝั่งไหน หักเลี้ยวตรงจุดเอเป็กตรงไหน ซึ่งก็คือการให้ดูไลน์แต่ไม่ได้บอกว่าให้เล่นโค้ง ให้ดูกับให้เล่นมันคนละแบบกัน
การดูไลน์ใช้ไม่ได้กับการขี่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติเช่น ไปกับใครก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่ามันขี่เก่งฉะนั้นถ้ากูตามไลน์มันไปล่ะก็แปปเดียวกูจะเก่งพอๆกับมันเพราะกูได้ก๊อปปี้ฝีมือของมันมาหมดแล้ว...(สาดดด มึงคิดผิดแล้ว เพราะถ้ามึงคิดแบบนี้ทุกคนก็ไปขี่ตามไลน์รอสซี่สนามเดียวทุกก็คงเป็นแชมป์โลกกันหมด ) และการที่เราฝีมืออ่อนกว่าเค้าแต่ไปฝืนตามไลน์ของคนที่เก่งกว่าซึ่งแน่นอนมันเข้าโค้งเร็วกว่าเราแน่นอน คันหน้ามันเก่งมันเร็วแล้วมันเลี้ยวได้ แต่เราไม่เก่งแต่ดันไปขี่เร็วพอๆกับคนเก่งแล้วเราจะเลี้ยวได้มั้ย ผลที่ได้ก็คือแหกโค้งหรือบานโค้งตามมา
----------------------------------------------ฝอยนานเิกินไปล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า---------------------------------------
จะเลิกงานล่ะผมพอมีเวลานิดหน่อย วันนี้เรามาพูดคุยกันเรื่องไลน์ในการเข้าโค้งดีกว่า ผมว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะโดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่พึ่งมาขี่รถได้ไม่นาน หรือสำหรับมือเก่าที่เคยขี่รถมานานมากๆแต่ไม่ค่อยได้ออกทริป
ก่อนอื่นผมขอออกตัวเลยว่าผมขี่รถแนวเรซซิ่งไม่ค่อยเก่ง แค่พอขี่ได้ และที่จะมาพูดถึงในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเรซซิ่งด้วย แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยในการเลี้ยว คือในเรื่องของไลน์ในการเข้าโค้ง เข้ายังไงให้เร็ว เข้ายังไงให้ปลอดภัย และก็จะไม่พูดถึงศัพท์ภาษาอังกิดด้วยว่า โทอิน โทเอ้า อินไลน์ อะไรแบบนั้นเพราะเรียกแบบนั้นแปปเดียวเดี่ยวก็ลืม
มาคุยทีละเรื่อง หลายๆคนนี้คงเคยเห็นรายการแข่งรถในวีวี moto gp ทุกคนจะชินตากับการเข้าโค้งแบบในรูปที่ 1 ที่ผมทำเอาไว้ถ้าภาษาบ้านๆก็ นอก-ใน-นอก ซึ่งหลายคนฝังใจกับไลน์แบบนี้ว่าสัีกวันถ้ากูได้ออกไปเจอโค้งสวยๆเมื่อไหร่กูจะเข้าไลน์แบบรอสซี่ แบบในทีวีเป๊ะๆให้ดู ....ปรากฏว่าแหกโค้งหรือบานโค้งกันเป็นแถว ผมเชื่อว่าหลายคนในนี้มีประสบการณ์แหกโค้งหรือบานโค้งกันมาแล้ว ตัวผมเองก็น่าจะประมาณ 2-3 ครั้งได้ถ้าจำไม่ผิดก็ 2-3 ครั้ง ทำไมเราถึงบานออกไปก็ด้วยสาเหตุหลายสาเหตุ สำหรับมือใหม่เลยคือ
1.เรื่องของสายตา สายตาไม่มองออกไปปลายสุดของทางที่จะเลี้ยว เพราะว่ารถจะวิ่งไปตามที่ตาเรามอง ถ้าเรามองใกล้ๆมันก็วิ่งเข้าหา้ตรงนั้นและหักเลี้ยวออกไปไม่ได้ ถ้าตาเรามองออกไปปลายโค้งรถมันก็จะวิ่งออกไปหาปลายทางออกของโค้ง ซึ่งในเรื่องสายตา การมองผมจะไม่ขอพูดถึงเพราะน่าจะเคยได้ยินกันบ่อยๆแล้วในเรื่องของ การใช้สายตา
2.เรื่องสภาพถนนของเมืองไทย ส่วนมากทางโค้งสวยๆก็ัมักจะอยู่ในอุทยาน ทางราดยางเนียนๆแต่มันก็ชอบมีตะไคร่น้ำเพราะว่ามีน้ำไหลลงมาจากตัวภูเขามาแฉะๆที่ถนน หรือเศษหินเศษหญ้า เศษอ้อย หรือแม้กระทั่งขี้ช้าง หรือสุนัขซึ่งตรงนี้เนี่ยทำให้เราพลาดกันมาหลายคนล่ะ
3.ไปตามไลน์คนเก่งๆ หลายคนชอบบอกว่าอยากเก่งนะเองขี่ตามไอ้นั่นไปเลย มันขี่เก่ง ไอ้ประโยคแบบนี้น่ะทำเจ็บกันมาหลายคนแล้วครับ คำว่าฝึกตามไลน์มันใช้ได้กับคนที่เต็มใจจะสอนเราในสนามแข่งเท่านั้นเช่นครูฝึกบอกว่า เอ้าทุกๆคน เดี่ยวครูจะขี่นำไลน์ช้าๆนะให้ทุกคนขี่ตามเพื่อศึกษาไลน์และดูไลน์ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าขี่ตามไลน์ได้ คือมีคนเต็มใจจะี่นำช้าๆเพื่อให้เรารู้ไลน์ว่าวิ่งชิดฝั่งไหน หักเลี้ยวตรงจุดเอเป็กตรงไหน ซึ่งก็คือการให้ดูไลน์แต่ไม่ได้บอกว่าให้เล่นโค้ง ให้ดูกับให้เล่นมันคนละแบบกัน
การดูไลน์ใช้ไม่ได้กับการขี่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติเช่น ไปกับใครก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่ามันขี่เก่งฉะนั้นถ้ากูตามไลน์มันไปล่ะก็แปปเดียวกูจะเก่งพอๆกับมันเพราะกูได้ก๊อปปี้ฝีมือของมันมาหมดแล้ว...(สาดดด มึงคิดผิดแล้ว เพราะถ้ามึงคิดแบบนี้ทุกคนก็ไปขี่ตามไลน์รอสซี่สนามเดียวทุกก็คงเป็นแชมป์โลกกันหมด ) และการที่เราฝีมืออ่อนกว่าเค้าแต่ไปฝืนตามไลน์ของคนที่เก่งกว่าซึ่งแน่นอนมันเข้าโค้งเร็วกว่าเราแน่นอน คันหน้ามันเก่งมันเร็วแล้วมันเลี้ยวได้ แต่เราไม่เก่งแต่ดันไปขี่เร็วพอๆกับคนเก่งแล้วเราจะเลี้ยวได้มั้ย ผลที่ได้ก็คือแหกโค้งหรือบานโค้งตามมา
----------------------------------------------ฝอยนานเิกินไปล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า---------------------------------------
1.ในรูปที่ 1"Rider Apex" เป็นรูปไลน์ในการเข้าโค้งแบบเรซซิ่งที่ใช้ในการแข่งขันเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ out-in-out หรือนอก-ใน-นอก นี่แหละ แบบนี้จะเข้าได้เร็วเพราะว่าเลี้ยวเป็นมุมกว้าง และปิดไลน์ในไม่ให้คันหลังแซงขึ้นมาได้ ซึ่งมืออาชีพที่เ่ก่ง(เก่งมาก)มักจะใช้แบบนี้ แต่ถนนเมืองไทยมันเอาแน่นอนได้ที่ไหนล่ะ มันปราบเซียนกันมาเยอะแล้ว การเข้าโค้งแบบนี้ถ้าเลี้ยวขวา ก่อนจะเลี้ยวช่วงสุดทางตรงเราจะต้องชิดซ้ายมาก่อนและพับรถตรงจุดเอเป็ก จุดที่ผมกากบาทเล็กๆสีแดงไว้นั่นแหละและวิ่งชิดในและรถจะค่อยๆบานออกเพราะเราเริ่มเิปิดคันเร่ง ทีนี้ถ้าไลน์คุณแม่นก็ดีไป แต่ถ้าไลน์คุณไม่แม่น หรือว่าแม่นแต่ไปเจอสภาพผิวถนนที่ไม่ดีแล้วทำให้ต้องเสียหลักหรือชะงัก รถคุณจะบานออก และคุณจะไม่มีที่ว่างพอให้คุณแก้อาการของรถอีกแล้ว สังเกตุจากจุดที่ผมระบายสีแดงเอาไว้ หรือเอาง่ายๆก็คือถ้าจะเลี้ยวแบบ out-in-out คุณจะต้องห้ามพลาดทั้งฝีมือและสภาพถนน เพราะถ้าพลาดหมายถึงแหกโค้ง ซึ่งอาจทำให้คุณบาดเจ็บหรือเสียชีวิตซึ่งผมไม่แนะนำให้เข้าแบบนี้ในถนนหลวง ควรใช้ในการแข่งขันเท่านั้น
2.ในรูปที่ 2 "Late Apex" หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "Decrease Radius"เป็นรูปไลน์ในการเข้าโค้งสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวบนถนนหลวงที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด ก็ไม่รู้ว่าื่ชื่อในการเข้าแบบนี้เรียกว่าอะไร ใครรู้ก็ช่วยมาบอกทีละกัน ให้สังเกตุจุดเอเป็กที่ผมกากบาทอันเล็กๆไว้ สังเกตุว่าตำแหน่งของมันจะลึกกว่ารูปที่ 1 ซึ่งการเข้าแบบนี้จะทำให้คุณมีพื้นที่ปลอดภัยสีเขียวในการบานออก ซึ่งพื้นที่สีเขียวนี้คุณสามารถแก้อาการของสิ่งที่ไม่คาดฝันได้อีก 1-2 ครั้ง การเข้าโค้งแบบนี้มันไม่เร็วเท่าแบบรูปที่ 1 และไม่เหมือนในการแข่งขันที่เห็นในทีวีก็จริงและก็ไม่ได้ปิดไลน์เพื่อกันรถคันหลังจะแซง แต่มันเป็นไลน์ที่ปลอดภัยครับ อย่าลืมว่าเราขี่รถท่องเที่ยวกับเพื่อน เราไม่ได้ขี่รถแข่งกับเพื่อนและใช้อุทยานแห่งชาติเป็นสนามแข่งนะครับ และพอเราขี่ไลน์แบบนี้แม่่นแล้วเราก็สามารถขี่ใ้ห้มันเร็วได้และปลอดภัยได้ครับ ขอเพียงแค่ให้เราใช้ไลน์แบบนี้จนชินและเป้นไลน์ประจำตัวเราก็พอครับชีวิตเราจะปลอดภัยขึ้น
หลักในการใช้ไลน์แบบรูปที่ 2 ให้เราท่องไว้ในใจเลยครับ (เข้าใ้ห้ลึกแล้วค่อยพับ เข้าใ้ห้ลึกแล้วค่อยพับ)
จบล่ะ..... ขอให้ทุกคนโชคดีและขับขี่ด้วยความไม่ประมาทครับ
ปล.ขอบคุณรูปกราฟฟิกสวยๆจาก ด.ช.เอ็ม แซ่เอี๊ยบ แซ่เอี๊ยบ
ปล.ขอบคุณ Tanate Kongkatekaew ที่อุสาห์พยายามหารูปมาให้ชม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น