Mikhail Kalashnikov

 20 เรื่องราวของปืน AK47 หรือ Kalashnikov

Posted by ravio , ผู้อ่าน : 2255 , 13:09:15 น.  
หมวด : ต่างประเทศ

 พิมพ์หน้านี้ 
  โหวต 4 คน opads , TheSuphan และอีก 2 คนโหวตเรื่องนี้

 
Credit : AFP Photo / Luis Robayo / AFP

 

Credit : https://goo.gl/k71CQm  




AK-47 หรือ Kalashnikov คือ อาวุธปืนที่ใช้ง่ายและราคาถูก นิยมใช้งานกันมากที่สุดในโลก

AK-47 คือ อนุสรณ์ความทรงจำผลงานชิ้นสุดท้ายของ Mikhail Kalashnikov
บิดาของปืน AK-47 ที่เสียชีวิตในวัย 94 ปีที่รัสเซีย


1. Mikhail Kalashnikov คือ ผู้การรถถังคันหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
กลายมาเป็นผู้ออกแบบอาวุธปืน  เพราะได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ช่วงทำสงครามที่ Bryansk
ในช่วงที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในปี 1942 เขาได้รับยินเสียงบ่นจากเพื่อนทหารที่บาดเจ็บจากการรบ
เรื่องเกี่ยวกับปืนไรเฟิลจู่โจมของรัสเซียหลายเรื่องมาก  จนทำให้เขาตัดสินใจที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงพวกมัน
Mikhail Kalashnikov มียศจ่าสิบเอกในช่วงที่ออกแบบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 


2. ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov กระบอกแรกผลิตขึ้นในปี 1947 
มาจาก Avtomat Kalashnikova = Kalashnikov's Automatic Gun  
ในภาษา Russian: Автома́т Кала́шникова  จึงเป็นที่มาของชื่อ AK-47
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ได้รับรางวัล  Stalin Prize และ Order of the Red Star
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 กลายเป็นอาวุธประจำหน่วยรบกองทัพโซเวียตรัสเซียตั้งแต่ปี 1949 

Mikhail Kalashnikov ได้รับเพียงเงินเดือนกับรางวัลเท่านั้นในการคิดค้นปืน AK-47
ทำให้เขาหวังว่าจะทำเงินได้จากผู้ผลิตเหล้าวอดก้า 2 รายที่ใช้ชื่อเหล้าวอดก้า Kalashnikov
ในช่วงบั้นปลายชีวิต Kalashnikov ทำเงินได้จำนวนมากจากการไปปรากฎตัวในงานแสดงอาวุธรอบโลก

 

 
Mikhail Kalashnikov. (RIA Novosti / Ruslan Krivobok) / RIA Novos


3. ความทนถึก ต้นทุนการผลิตต่ำ  ราคาถูก พร้อมที่จะใช้งานและใช้งานง่าย
คือ คุณสมบัติสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้กับปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ไปทั่วโลก
ในช่วงผลิตและทดสอบปืนนี้ Kalashnikov ได้ใช้งานมันอย่างหนักทุกรูปแบบทั้งในทรายหรือในน้ำ
ทำให้นักออกแบบยอมรับว่ามันคือ สัญลักษณ์อัจฉริยะในการสร้างสรรค์ของคนรัสเซีย

 



4. ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ได้รับการบันทึกใน Guinness Book of Records ว่า
เป็นอาวุธปืนที่มีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก 
คาดว่ามีปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ราว 100 ล้านกระบอกที่ยังมีการใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้
เฉลี่ยในกลุ่มคน 60 คนจะต้องมีปืน AK-47 อยู่ 1 กระบอก(ประมาณการประชากรโลก 6,000 ล้านคน)
ทั้งยังสามารถสอนให้ผู้ใช้งานมือใหม่  ให้ถอดทำความสะอาดและประกอบได้ภายใน 1 ชั่วโมง





5. กองทัพกับหน่วยรบพิเศษใน 106 ประเทศทั่วโลก
ตั้งแต่อัฟกานิสถาน ถึง ซิมบับเว ทุกวันนี้ยังใช้งานปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
และมี 50 ประเทศที่ประกาศว่าปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 เป็นปืนประจำกองทัพ



6. รัสเซียไม่เพียงแต่แจกจ่ายปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
ไปทั่วโลกในยุคการส่งออกปฏิวัติช่วงสงครามเย็น
ในช่วงเป็นคอมมิวนิสต์ ทุกอย่างที่ชาวบ้านคิดค้นประดิษฐ์ได้จะเป็นของรัฐทั้งหมด
แม้ว่าจะมีการจดทะเบียนสิทธิบัตรก็เป็นแต่การยอมรับผลงานคนคิดค้น
กับป้องกันประเทศอื่นมาฉกฉวยหากำไรจากสิทธิบัตรของโซเวียตรัสเซียในยุคนั้น


ทั้งรัสเซียยังอนุญาตให้ชาติต่าง ๆ ทำการผลิตปืนรุ่นนี้ได้เอง 
ซึ่งมีประเทศมากกว่า  30 ประเทศ เช่น จีน อิสราเอล อินเดีย อียิปต์ และ ไนจีเรีย
โดยจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนรัสเซียมีปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 คงค้างในคลังแสงมากที่สูดในโลก

ในปี 2006 ประธานาธิบดี  Hugo Chavez เวเนซูเอลา ได้ส่งออกปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ครั้งแรกจำนวน 100,000 กระบอก
ในปี 2012 จึงได้ประกาศว่ามีการตั้งโรงงานผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ในเขต Western Hemisphere ของเวเนซูเอลา



7. เชื่อกันว่าปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ฆ่าคนตายทั่วโลกมากกว่าปืนใหญ่ การทิ้งระเบิด หรือขีปนาวุธอื่น ๆ
ประมาณการว่ามีผู้คนราว 250,000 คนถูกยิงตายด้วยปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikovs ในทุกปี




8. ในปี 2007 โดยส่วนตัวแล้ว Mikhail Kalashnikov บอกว่าไม่เคยนึกตำหนิตนเอง
เกี่ยวกับเลือดและความตายของผู้คนที่เกิดจากปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 

“ ผมนอนหลับสบายดี มันเป็นเรื่องของพวกนักการเมือง ที่สมควรจะถูกประณามมากกว่า
เพราะต่างตกลงกันไม่ได้และนำไปสู่ความรุนแรง (ต่างพาชาติไปสู่สงคราม) 

ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อปกป้องมาตุภูมิ ผมไม่เคยเสียใจ
หรือต้องรับผิดชอบแต่อย่างใดในการที่นักการเมืองใช้พวกมัน

ผมภูมิใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ แต่ผมเศร้าใจ ถ้ามันถูกใช้โดยผู้ก่อการร้าย

ผมอยากที่จะสร้างเครื่องจักรที่ชาวบ้านสามารถใช้งานได้
และช่วยชาวนาในการทำงานของพวกเขา ตัวอย่างเช่น เครื่องตัดหญ้า "

 
อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ Kofi Annan ยกปืนไรเฟิลจู่โจม AK47 
ที่ดัดแปลงเป็นกีตาร์ในศูนย์ Vienna's U.N วันที่ 11 กันยายน 2007 (Reuters / Herwig Prammer)
 



9. ราคาถูกจัดว่าเป็นข้อดีที่สำคัญที่สุดของปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
ราคาเฉลี่ยของปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้ราว 534 เหรียญสหรัฐ(18,690.-บาท) ในปี 2005
ตามข้อมูล Phillip Killicoat นักเศรษฐศาสตร์ Oxford University 
และคาดว่าราคาปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ในกลุ่มประเทศแอฟริกา 
มีราคาถูกกว่าราคาเฉลี่ยของปืนทั่วไป 200 เหรียญสหรัฐ (7,000.-บาท)
(1 เหรียญสหรัฐเทียบเท่า 35.-บาท)
ตลาดมืดในไทยราคาปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 มือสองราว ๆ 10,000-15,000.-บาท

 



10. Osama bin Laden มักจะมีปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov เคียงข้างกายในช่วงเผยแพร่ภาพปลุกระดมบนวีดีโอ
และตามรายงานข่าวบางแห่งได้ระบุว่า สหรัฐอเมริกามอบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 กระบอกแรก
ให้กับ Osama bin Laden ผู้เริ่มก่อตั้งกลุ่ม Al Qaeda ในการไปรบกับโซเวียต ที่อัฟกานิสถาน
พร้อมกับจัดส่งปืน AK-47 นับล้านกระบอกพร้อมกับขีปนาวุธให้กับกองกำลังติดอาวุธต่อต้านโซเวียต


 
Osama Bin Laden (Reuters / Hamid Mir / Editor / Ausaf Newspaper for Daily Dawn)

 
 



11. ในช่วงสงครามเวียตนาม ทหารสหรัฐอเมริกาหลายคนต่างทิ้งปืนไรเฟิลจู่โจม M16
แล้วหยิบฉวยปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov ที่เชื่อมั่นว่าใช้งานได้ดีกว่า M16 จากศพข้าศึกเวียตกงมาใช้งานแทน
รวมทั้งในอัฟกานิสถาน อิรัค ที่มีปัญหาเรื่องฝุ่นกับทรายมากในปืน M16
แม้กระทั่งในทุกวันนี้ นาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาบางคนยังพกพาปืน AK-47 เป็นอาวุธประจำกาย

ในปี 2007 โรมาเนียขายปืน AK-47 แบบกึ่งอัตโนมัติให้สหรัฐฯ
ในราคาเพียง 350 เหรียญถูกกว่าปืนอื่น ๆ ที่ตั้งราคาขาอย 1,395 เหรียญ

5 ธันวาคม 2007 วัยรุ่น 19 ปีได้ใช้ปืน AK-47 ระเบิดกระสุนในใส่ในศูนย์การค้า Nebraska รัฐ Omaha
ฆ่าคนตายไป 8 คนและบาดเจ็บมากกว่า 3 คน ก่อนจะยิงตัวตาย


12. ปืน AK-47 เป็นที่ยอดนิยมในแอฟริกาหลายชาติ
ก่อนวันคริสต์มาส ในปี 1989 Charles Taylor ได้ยึดเมืองมอนโรเวีย ในไลบีเรีย
ด้วยทหารกองโจรจำนวน 100 คนที่ติดอาวุธปืน AK-47 และครองอำนาจนานถึง 6 ปี
ด้วยการเกณฑ์ทหารเด็กและเยาวชนให้ติดอาวุธปืน AK-47 คุ้มครองพวกมัน
สุดท้ายตอนนี้ มันติดคุกข้อหาความผิดอาชญากรรมสงคราม

 


 


 
Ousmane Sangare ทหารพลร่มมาลี วัย 26 ปีถือปืนไรเฟิลจู่โจม  AK-47 
ใน Gao ตอนเหนือของ  Bamako (AFP Photo / Joel Saget)

 


 

ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 อยู่บนธงชาติโมแซมบิก 

 
อาร์มซิมบับเว

 
อาร์มเบอร์กิน่า ฟาโซ(1984-97)

 
อาร์มติมอร์ตะวันออก

 
ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov บนธงชาติกลุ่มก่อการร้ายฮิซบุลลอฮ์  ในเลบานอน

 



13. พ่อแม่บางคนในแอฟริกาตั้งชื่อลูกตนเองว่า Kalash 
ซึ่งเป็นชื่อเล่นอีกชื่อของปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov 
ตามรายงานข่าวโทรทัศน์ Russia Channel One


14. Andrey Kirilenko นักบาสเกตบอลชั้นนำของรัสเซีย 
เกิดในเมือง Izhevsk สถานที่ตั้งโรงงานผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov 
ได้หมายเลขประจำตัวเสื้อเลขที่ 47 ใน NBA และมีชื่อเล่นว่า AK-47

 



15. อียิปต์ได้บอกถึงความเป็นอมตะของปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 
ด้วยการสร้างอนุสาวรีย์ขนาดยักษ์รูปปืน
ปืน Kalashnikov พร้อมกับดาบปลายปืน ที่คาบสมุทรซีนาย

 



16. ในปี 2004-2005 ปืน AK-47 มากกว่า 350,000 กระบอกพร้อมอาวุธอื่น ๆ
ถูกนำออกจากประเทศบอสเนียและประเทศเซอร์เบีย ตามมติ NATO กับกองกำลังรักษาสันติภาพยุโรป
แล้วนำไปส่งมอบให้กองกำลังติดอาวุธในอีรัคที่รับจ้างกับ Pantagon
แต่ปืน AK-47 กว่า 110,000 กระบอกพร้อมกระสุน 80,000 นัดสูญหายไป
ในปี 2007 กองทัพอีรัคต่างใช้ปืน AK-47 ที่สหรัฐฯ สั่งซื้อจากประเทศจอร์แดน
แต่ช่วงหลังสหรัฐเริ่มแจกจ่ายปืน M-16 ให้ประจำกายแทน
เพราะปรากฏว่าปืน AK-47 จำนวนมากตกอยู่ในมือฝ่ายต่อต้าน/ISIS

 

ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov เคลือบทองคำ  คือ 
สมบัติสะสมส่วนตัวของ Saddam Hussein อดีตผู้นำอีรัค ที่ถูกทหารสหรัฐฯ ยีดได้

 



17. เหรียญที่ภาพ Mikhail Kalashnikov กับอาวุธปืนไม่ใช่มีแต่ในรัสเซีย
แม้แต่ประเทศที่รักสงบอย่างนิวซีแลนด์ ยังมีภาพปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้ครบรอบ 60 ปีในเหรียญรุ่นพิเศษ

 



18. หนังสือพิมพ์ Liberation ของฝรั่งเศสได้ขนานนามปืนไรเฟิลจู่โจม  AK-47 
คือ สิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 เหนือกว่าระเบิดปรมาณูกับกระสวยอวกาศ

19. การผสมเหล้าวอดก้า เหล้าหวาน Absinth มะนาว อบเชย และน้ำตาล เป็นเหล้าผสมชื่อ Kalashnikov
และยังมีเหล้าวอดก้าชื่อ Kalashnikov ที่บรรจุขายในขวดคล้ายปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ตั้งแต่ปี 2004 

 



20. Cesar Lopez ศิลปินชาวโคลัมเบีย ได้นำปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 จำนวน 12 กระบอกมาประดิษฐ์ให้เป็นกีตาร์
แล้วมอบให้เป็นของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับ Kofi Annan อดีตเลขาธิการสหประชาชาติในปี 2007

 
 




เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/WgzchK
https://goo.gl/iZHP24
https://goo.gl/9sBrBZ

 

 




ปืน AK-47 เมืองไทยเรียก อาก้า  น่าจะมาจาก ภาษารัสเซีย A= ah K= kah



Credit : หมายเลข 19   https://pantip.com/topic/31576364/comment5 

ค้างคาใจคับ ทำไมคนไทยถึงเรียกปืนตระกูล AK ว่า"อาก้า"




ภาษาฝรั่งเศส A= อา K= กา
เพราะบางท่านว่าน่าจะมาจากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งครั้งหนึ่งเวียตนามเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน
และช่วงหนึ่งเวียตนามรับการสนับสนุนอาวุธจากโซเวียตรัสเซีย  การออกเสียงก็คล้ายเคียงกัน

 


http://oknation.nationtv.tv/blog/ravio/2017/09/24/entry-1

































































































ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม