เปิดตำนาน Yamaha สายพันธุ์ SR 400/500

 

เปิดตำนาน Yamaha สายพันธุ์ SR 400/500

ทำไมรถรุ่นนี้ถึงได้มีอายุการผลิตที่ยาวนานเกือบ30ปี ?ทำไมถึงมีการปรับเปลี่ยนโฉม(Minor Change) ทั้งหมด 21ครั้งตั้งแต่เริ่มผลิตจนถึงปัจจุบัน ทำไมมันถึงไม่ยอมตกยุคหนำซ้ำยังได้รับความกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องที่น่าศึกษาและค้นคว้า และนี่คือตำนาน Yamaha ตระกูล SR 400/500 ได้เริ่มสายการผลิตในครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1978 โดยเริ่มผลิตด้วยรุ่น 500 ก่อน ซึ่งได้ใช้เครื่องยนต์ของรถแนววิบากรุ่นพี่คือ Yamaha XT 500 (เริ่มผลิตปี 1976) เป็นต้นแบบ หลังจากนั้นจึงผลิตรุ่น 400 ตามออกมา ด้วยการออกแบบรูปทรงเพื่อสนองความต้องการในยุคสมัยนั้น (ยุครุ่งเรืองของรถมอเตอร์ไซค์จากเมืองผู้ดีอังกฤษ) เครื่องยนต์สี่จังหวะสูบเดียว 400และ500cc. ระบบการไหลเวียนของน้ำมันเครื่องโดยใช้เฟรมของตัวรถ ซึ่งเป็นที่ต้องตาต้องใจวัยรุ่นยุคนั้นอยู่ไม่น้อยเล ยทีเดียว และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ได้มีการปรับเปลี่ยนสีสันลายถัง,โลโก้,ระบบเบร ค เป็นต้น มีการผลิตรุ่น SP ทั้งหมด2รุ่น และ Special Edition ทั้งหมด4ครั้ง ที่เราจะได้มาดูในรายละเอียดกันต่อไป

 

ข้อมูลทางเทคนิคของ SR 400

เครื่องยนต์แบบ Single สูบเดียว 4จังหวะ โอเวอร์เฮดวาล์ว(OHC) 2 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
รหัสเครื่องยนต์ 2H6 (ไม่มีเลขต่อ)/ปี1996-2000 2H6 xxxxxx (มีเลข6หลัก)/ปี 2001 ถึงปัจจุบัน H313E xxxxxx 
ความจุกระบอกสูบเท่ากับ 399cc.
ความกว้างกระบอกสูบxความยาวช่วงชักเท่ากับ 87.0x67.2
อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 8.5 : 1 
แรงม้าที่มีมาให้ใช้ 27 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 7,000 รอบต่อนาที
แรงบิด 3.00 กิโลกรัมเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง คาร์บูเรเทอร์
ระบบตัดต่อกำลังแบบ คลัทช์แบบเปียก 8 แผ่นซ้อน
ส่งกำลังผ่าน โซ่และสเตอร์
ระบบจุดระเบิดแบบ CDI
ระบบเบรคหน้า ดรัมเบรค/ดิสเบรค (แล้วแต่รุ่นปี) 
ระบบเบรคหลัง ดรัมเบรค

ข้อมูลทางเทคนิคของ SR 500
เครื่องยนต์แบบ Single สูบเดียว 4จังหวะ โอเวอร์เฮดวาล์ว(OHC) 2 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
รหัสเครื่องยนต์ 2J2 
ความจุกระบอกสูบเท่ากับ 499cc.
ความกว้างกระบอกสูบxความยาวช่วงชักเท่ากับ 87.0x84.0
อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 
แรงม้าที่มีมาให้ใช้ 32 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6,500 รอบต่อนาที
แรงบิด 3.70 กิโลกรัมเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง คาร์บูเรเทอร์
ระบบตัดต่อกำลังแบบ คลัทช์แบบเปียก 8 แผ่นซ้อน
ส่งกำลังผ่าน โซ่และสเตอร์
ระบบจุดระเบิดแบบ CDI
ระบบเบรคหน้า ดรัมเบรค/ดิสเบรค (แล้วแต่รุ่นปี) 
ระบบเบรคหลัง ดรัมเบรค 

 

ปี 1978 
เปิดไลน์การผลิต ด้วยดีไซน์ ถังน้ำมันแบบเรียวยาวและฝาถังยาว โลโก้ข้างถังเป็นแบบสติ๊กเกอร์ เป็นตัวอักษรคำว่า YAMAHA ตัวใหญ่ แบบเรียบ(ลายถังของ400และ500ไม่เหมือนกัน) ส่วนโลโก้ฝาข้างเป็นแบบเรียบเช่นกัน โดยมีตัวอักษรคำว่า SR400 อยู่ในแนวเดียวกัน ปีแรกมีการผลิตรุ่น400และ500cc. ระบบเบรกหน้าเป็นแบบ ดิสค์เบรค โดยอยู่ด้านซ้ายของวงล้อหน้า ไมล์หน้าดำเข็มเหลืองมีตุ่มไฟสีส้มที่กะโหลกไฟหน้า(ไ ม่รู้ว่าใช้บอกอะไร) เท่าที่ดูจากแคตตาล็อค 400มีฝาหลัง(หลังเบาะ)ส่วน500ไม่มีแต่จะมีมือจับเหล็ กสำหรับคนซ้อนจับแทน SR400 ใช้คาร์บูเรทอร์แบบลูกชัก ส่วน SR500 ใช้คาร์บูเรทอร์แบบลูกชักมีเจ็ทสเปรย์

 

 ปี 1979
ปีนี้ YAMAHA ผลิตเฉพาะรุ่น 400/500SP เท่านั้น คือเป็นรุ่นล้อแม็กซ์ 7 ก้าน โดยลักษณะของถังน้ำมัน,ฝาถังและโลโก้ข้างถังยังเป็นแ บบเดิมแตกต่างที่สีสันและลวดลายถัง ส่วนโลโก้ฝาข้างที่เป็นแบบเรียบเหมือนเดิมแต่ตัวอักษรจะเป็นSR400/500SPโดยคำว่าSRจะอยู่เหนือคำว่า400SP รุ่นนี้มีทั้งมือจับและฝาท้ายมาให้ทั้ง2รุ่นส่วนระบบเบรกหน้ายังเป็นเหมือนเดิมไมล์หน้าดำเข็มเหลืองตรงกลางระหว่างวัดความเร็วและวัดรอบจะคั่นด้วยแผงไฟบ อกตำแหน่งเกียร์ว่างและไฟเลี้ยว

 

 ปี 1982
ต้องขอบอกว่าในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ลักษณะของถังน้ำมัน,ฝาถังและโลโก้ข้างถังยังเป็นแบบเ ดิม และลวดลายถังก้อยังเหมือนกับปี79 แต่ปีนี้ผลิตแต่รุ่น400 ออกมาใหม่เท่านั้น (ไม่มีรุ่น500) ส่วนโลโก้ฝาข้างเป็นแบบเรียบเหมือนเดิม โดยมีตัวอักษรคำว่า SR400 อยู่ในแนวเดียวกันเหมือนปี78 ระบบเบรคหน้ายังเป็นดิสค์เหมือนเดิมเช่นกัน ปีนี้ไม่มีฝาหลังมีแต่มือจับ แผงไฟทับทิมสีส้มที่บริเวณด้านข้างของแผงคอล่างจะมีตั้งแต่ปี78 จนถึงปีนี้

 

 

ปี 1983
ปีนี้ YAMAHA ผลิตทั้ง400และ500ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น SP โดยลักษณะของถังน้ำมันและฝาถังยังเป็นแบบเดิม แต่โลโก้ข้างถังเป็นแบบตัวอักษร YAMAHA ตัวนูนใหญ่มาแทนสติ๊กเกอร์แบบเรียบ และลวดลายถังใหม่ โลโก้ฝาข้างแบบเดิมคือสติ๊กเกอร์แบบเรียบ โดยมีตัวอักษรคำว่า SR400 อยู่ในแนวเดียวกัน ส่วนรุ่นSP ตัวอักษร จะเป็น SR400/500SP โดย คำว่า SR จะอยู่เหนือ คำว่า 400SP ไมล์รุ่นเดิมแบบมีแผงไฟกั้นตรงกลางระหว่างวัดรอบและว ัดความเร็ว และตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปไม่มีแผงทับทิมสีส้มที่บริเ วณด้านข้างของแผงคอล่างแล้ว และไม่ผลิตรุ่นSP อีกแล้วจะเห็นได้ว่ารุ่นล้อแม็กซ์มีแค่ 2 ปีเท่านั้นคือ ปี1979 และ 1983 รุ่นล้อแม็กซ์จึงเป็นรุ่นนึงที่น่าสะสม

 

 

ปี 1984
ปีนี้ผลิตรุ่น400อย่างเดียว ถังน้ำมันและฝาถังแบบเดิม โลโก้แบบใหม่คือเป็นโลโก้สัญลักษณ์ของ YAMAHA คือ ส้อมเสียบ อยู่เหนือตัวอักษร YAMAHA ตัวเล็ก แบบตัวพลาสติกนูน ลายถังแบบใหม่ ส่วนโลโก้ฝาข้างเป็นแบบ ตัวอักษร SR อยู่เหนือตัวเลข 400 ไมล์ยังคงเป็นแบบเดิม และตั้งแต่ปี78จนถึงปีนี้ใช้ยางปิดที่หัวกระบอกโช๊ค ไม่มียางกันฝุ่นแบบเป็นข้อๆที่ยาวจากแผงคอล่างลงมาปิ ดที่กระบอกโช๊คแบบที่เราเห็นได้บ่อยในรถที่เข้ามาในบ้านเรา

 

 

 ปี 1985
ปีนี้ผลิตทั้งรุ่น400และ500 มีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเปลี่ยนระบบเบรกห น้าเป็นแบบดรัมเบรค(เริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป) และไมล์เปลี่ยนเป็นแบบหน้าขาว(เห็นได้เยอะมากในบ้านเ รา) ลวดลายถังแบบใหม่มียางกันฝุ่นแบบเป็นข้อๆที่ยาวจากแผ งคอล่างลงมาปิดที่กระบอกโช๊คเริ่มใช้ตั้งแต่ปีนี้ ส่วนถังและฝาถังยังคงเป็นแบบเดิม

 

 

ปี 1988
ปีนี้ผลิตทั้งรุ่น400และ500 แต่ออกถังน้ำมันรุ่นใหม่คือถังน้ำมันจะอวบอ้วนขึ้นแล ะฝาถังเป็นแบบหอยเชลล์และคาร์บูเรเทอร์แบบผ้าปั๊มได้ เริ่มใช้ตั้งแต่ปีนี้ลวดลายถังเหมือนปี1985 แต่ต่างกันที่ลายฝาท้ายไม่เหมือนกัน

 

 

 ปี 1991
ปีนี้ผลิตทั้งรุ่น400และ500 อีกเช่นกันทุกอย่างแทบจะเหมือนกับปี1988 มีจุดที่แตกต่างกันคือโลโก้ถังน้ำมันจะเป็นสัญลักษณ์ ของYAMAHA คือส้อมเสียบเท่านั้นเป็นแบบที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันแล ะส่วนโลโก้ฝาข้างเป็นแบบตัวอักษรSR อยู่บนเยื้องกับตัวเลข 400โดยมีหางของตัวอักษรR มาพาดทับตัวเลข400

 

ปี 1992
ปีนี้เป็นปีแรกที่YAMAHA ทำรุ่นSPECIAL EDITION คือรุ่น400S และ 500S รุ่นพิเศษนี้เห็นได้ชัดที่สุดคือโคมไฟหน้าได้ทำสีเดี ยวกับตัวรถและโลโก้ฝาข้างเปลี่ยนมาใช้แบบนูนรูปวงรีโ ดยมีตัวอักษรSR อยู่ตรงกลางเป็นแบบที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันและเบาะหนัง ด้านบนเป็นสีน้ำตาลตัดกับด้านล่างสีดำ

 

 

 ปี 1993
ปีนี้เท่าที่ดูจากภายนอกแล้วแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปล ง ลวดลายจะเหมือนปี 1991 

 

 

 ปี 1995
ปีนี้ออกรุ่นSPECIAL EDITION ครั้งที่ 2 แต่ทำออกมาเฉพาะรุ่น400S เท่านั้น (ปีนี้ไม่ผลิตรุ่น 500) แต่รุ่นนี้ไม่เหมือนกับรุ่นSPECIAL EDITION รุ่นแรกก้อตรงที่โคมไฟหน้าเป็นแบบชุบโครเมี่ยมทั้งหม ดจุดเด่นที่เห็นชัดคือเสื้อสูบและฝาวาล์วเป็นสีทองอ่ อน (ตัวผมเองยังไม่สามารถหาข้อมูลของรุ่นSPECIAL EDITION ได้เท่าที่ควรจะเห็นที่แตกต่างชัดเจนภายนอกเท่านั้นส่วนระบบภายในเครื่องยนต์หรือระบบไฟยังไม่มีข้อมูลตรง นี้)

 

ปี 1996
ปีนี้ผลิตทั้งรุ่น 400 และ 500 มีลวดลายที่แตกต่างและปีนี้เริ่มมีการตอกเลขเครื่อง(2H6 xxxxxx)สำหรับรุ่น400 ส่วนรุ่น 500 ได้ออกเป็นรุ่นGLITTERING BLACK เน้นสีดำเป็นโทนสีหลักซึ่งลวดลายจะไม่เหมือนกับรุ่น 400

 

 ปี 1998
ครบรอบ 20 ปีของSR ในปีนี้YAMAHA จึงได้ผลิตรุ่น 20th ANNIVERSARY ทั้งรุ่น 400 และ 500 โดยได้ทำสีสรรลวดลายและโลโก้เหมือนกับปีเกิดคือปี 1978 แต่ต่างกับปี 78 ตรงที่อุปกรณ์จะเป็นของรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นดรัมเบรค หน้าคาร์บูเรเทอร์ถังไมล์

 

ปี 1999
ปีนี้ยังผลิตทั้งรุ่น 400 และ 500 ปรับเปลี่ยนแค่สีสันกับลวดลายนิดหน่อยแต่ลายฝาข้างขอ งรุ่น 500 สวยได้ใจผมจริงๆ

 

 ปี 2000
ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของSR 500 ซึ่งระบบเบรกหน้าเป็นแบบดรัมเบรคหลังจากปีนี้ไปไม่ผล ิตรุ่น 500 แล้วจนถึงปัจจุบันและก็เป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้ระบบเบร กหน้าเป็นดรัมเบรคหลังจากใช้มาเป็นเวลาถึง 15 ปีติดต่อกัน (เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1985)

 

ปี 2001
เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างสำหรับรถตระกูลSR เริ่มที่ฝาถังน้ำมันเปลี่ยนเป็นแบบกลมหมุนเกลียวเปิด ออกได้เลย (รุ่นเก่าเป็นแบบไขกุญแจแล้วเปิดขึ้นหมุนออกไม่ได้) เลขเครื่องยนต์เปลี่ยนเป็นรหัสใหม่H313E xxxxxx ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้มีตัวกรองไอเสียด้วยคาร์บูเรเท อร์แบบผ้าปั๊มแต่ปีกผีเสื้อย้ายมาอยู่ด้านขวาระบบเบร กหน้าเป็นแบบดิสค์เบรคโดยจานเบรกจะอยู่ด้านขวาตามสโล แกนคือSR with Disc. และอย่างที่เกริ่นไว้แล้วคือตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปผล ิตเฉพาะรุ่น 400 เท่านั้น

 

 ปี 2002
ปีนี้ตามแคตตาล็อคจะเห็นว่าลูกสูบเคลือบเทฟล่อนบริเว ณหัวลูกสูบและถ้าเป็นรถรุ่นที่เป็นถังสีบรอนซ์เครื่อ งยนต์จะเป็นสีดำตัวนี้น่าจะเป็นความพิเศษของปีนี้ครั บ

 

 

ปี 2003
ฉลองครบรอบอีกแล้วครับ 25ปีแล้วปีนี้มีทั้งรุ่นธรรมดาและSPECIAL EDITION มาดูกันว่ามีอะไรพิเศษบ้าง
มาเริ่มที่รุ่นธรรมดากันก่อนเริ่มที่กุญแจฝังไมโครชิ ปครับสังเกตุที่หน้าจอของไมล์วัดความเร็วครับจะมีไฟรูปเครื่องยนต์และรูปกุญแจเพิ่มขึ้นมาจากรุ่นก่อนตัวน ี้มีข้อห้ามอย่างนึงคือห้ามเอากุญแจสองดอกมาอยู่ติดก ันเวลาที่เสียบกุญแจครับระบบมันจะรวนสตาร์ทเครื่องไม่ได้และอย่าให้มันหายเด็ดขาดครับปีนี้เป็นคาร์บูเรเท อร์ไฟฟ้าเชื่อมต่อกับกล่องควบคุมตัดรอบที่ 8,000 รอบเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเครื่องยนต์
ต่อไปมาดูรุ่นSPECIAL EDITION กันอุปกรณ์พื้นฐานเหมือนรุ่นธรรมดาเลยครับมีเพิ่มที่ สีสันลวดลายตามรูปเลยครับเบาะสีน้ำตาลแบบเล่นโทนสีอ่ อนแก่และตีฟูกลายขวางโลโก้ฝากระเป๋าข้างระบุชัดเจนคร ับว่าเป็นรุ่นSPECIAL EDITION เหมือนกับที่แฮนด์ตรงกลางเช่นกันระบุไว้ให้เห็นเด่นชัดแผงคอสีดำคาลิปเปอร์เบรกสีดำและสปริงหลังดำแผ่นกัน หินบริเวณใต้เครื่องชุบโครเมี่ยมครับ

 

 

ปี 2004
จุดเด่นของปีนี้ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือออกรุ่นสีขาวค รับ(เฟรมดำ) เป็นปีแรกที่มีสีขาวออกจากโรงงานนับตั้งแต่กำเนิดมาน อกนั้นเหมือนรุ่นปีที่แล้วครับ

 

 

ปี 2005
ปีนี้ออกมา 2 รุ่นอีกแล้วครับรุ่นธรรมดาและ SPECIAL EDITION (ครั้งที่4) เรามาเริ่มกันที่
รุ่นธรรมดาก่อนเด่นชัดที่สุดก้อเป็นตัวถังน้ำมันสีแด งตัดลายขาวสีเฟรมเป็นสีบรอนซ์ครับเป็นครั้งแรกอีกเช่ นกันที่ทำเฟรมสีบรอนซ์
รุ่น SPECIAL EDITION ฉลองYAMAHA มีอายุครบ 50 ปี 50th ANNIVERSARY ทำสีสันลวดลายย้อนกลับไปเมื่อปีเกิดอีกครั้ง (1978) ไมล์เป็นแบบหน้าดำและคาลิปเปอร์เบรกสีดำตามการคาดเดา ผมคิดว่ารุ่นนี้น่าจะใช้ลูกสูบของรุ่น 500 ด้วยครับ (ไม่มั่นใจเนื่องจากแปลภาษาญี่ปุ่นไม่ได้)

 

 

 ปี 2006
ปีปัจจุบันออกรุ่น BLACK SPECIAL เป็นรุ่น LIMITED EDITION ปีนี้มีดีที่สีดำครับมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้างสีสันล วดลายเน้นสีดำตัดเทาโลโก้ถังน้ำมันเป็นตัวอักษรYAMAH A แบบสติกเกอร์เรียบเช่นเดียวกับฝาข้างใช้SR 400 แบบสติกเกอร์เรียบเช่นกัน
แฮนด์ , ตุ๊กตาแฮนด์ , แผงคอบน , ไมล์ , โช้คอัพหน้า , คาลิปเปอร์เบรก , วงล้ออลูมิเนียมหน้าหลัง , ดุมล้อหน้าหลังและเครื่องยนต์ล้วนเป็นสีดำตามคอนเซปต ์ครับ
ส่วนรุ่นธรรมดาก้อยังมีผลิตอยู่แต่ผมยังไม่สามารถหาแ คตตาล็อกได้

http://pirun.ku.ac.th/~b5410102851/history.html


 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม