สูตรสร้างหนังสั้น

 

สูตรสร้างหนังสั้น

สูตรสร้างหนังสั้น
ปู ชง ตบ

กลับมาที่โครงสร้าง เคล็ดลับที่ไม่ลับเพื่อให้หนังสนุกขึ้น

ช่วงนี้แอดได้ดูหนังสั้นเยอะอยู่ แล้วก็ได้เห็นปัญหาอยู่เล็กน้อย ว่าเอ๊ะ ทำไมหนังหลายๆเรื่องถึงไม่พาเราไปอิ่ม หรือบางทีมันก็รู้สึกขาดๆ บางครั้งเมื่อถึงจุดพีคแล้ว ทำไมมันไม่พีคอย่างที่มันควรจะเป็นนะ

นั่งดูๆพร้อมกับคิfด้วยการแบ่งๆขั้นตอน องค์ประกอบออกมาคิด

ส่วน Idea ไม่ใช่ปัญหานะ คนทำหนังสั้นเดี๋ยวนี้ไอเดียดี
ส่วนTheme ก็ไม่เป็นปัญหา หนัง Theme ดีเลย แปลค่าออกมาเป็นเรื่องราวก็โอเคนะ เรื่องก็ไม่ขี้เหร่
ส่วน Story ก็บอกไปอยู่ข้างบนว่าไม่ขี้เหร่นะ

งั้นน่าจะเป็นส่วนนี้แน่เลย …เราเรียกมันว่า “การดำเนินเรื่อง”

การดำเนินเรื่อง คือการจัดการกับโครงสร้าง ซึ่งโครงสร้างการเล่าเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ วิธีการที่พิสูจน์และยอมรับกันมาแล้วคือ โครงสร้างสามองก์ คือ
เริ่มเรื่อง ดำเนินเรื่อง และตอนจบ
ซึ่งจะประกอบด้วย การปูพื้น การเผชิญหน้า และจุดสุดยอดกับบทสรุป ซึ่งในนั้นก็จะประกอบไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อยอีกมากมายหากเป็นหนังยาว 90 นาทีขึ้นไป

แต่ในหนังสั้น …โดยเฉพาะหนังสั้นประกวดในยุคนี้ ความยาวเฉลี่ยมักจะเป็น 2 – 7 นาที เราจึงไม่สามารถอัดข้อมูลต่างๆที่เคยเหมาะสมกับหนังที่ยาว 90 นาที ลงไปได้ ทำให้การดำเนินเรื่องในหนังสั้นมักไม่ครบถ้วน อาจจะมีความกระท่อนกระแท่น แล้วผลลัพธ์ก็คืออาจจะเฟลได้

เราเลยมีคำแนะนำมาว่า 3 องก์ของหนังสั้น ให้โฟกัสไปที่สิ่งนี้
ปู ชง ตบ แบบการ์ตูนสามช่องจบ หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษเท่ๆว่า Set up >> Build >> Peak

จริงๆหนังยาวก็ใช้แบบนี้ล่ะ แต่ด้วยสิ่งละอันพันละน้อยในเนื้อที่ของมัน คำนี้อาจจะต้องเสริมด้วยองค์ประกอบอื่นๆ แต่กับหนังสั้นนี่ โฟกัสไปที่สามคำนี้ได้เลยครับ

มาดูทั้งสามคำกัน

ปู >>> คือการ Set up เรื่องของเรา ข้อมูลที่เราต้องบอกคนดู โลกใบนั้นเป็นอย่างไร ตัวเอกเป็นใคร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง และเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำให้เขามีเป้าหมายอะไร หรือเขาต้องแก้ปัญหาอะไร

ชง >>> ส่วนนี้คือการ Build เรื่องขึ้นไป เขาแก้ปัญหานั้นด้วยวิธีการอะไร มีอุปสรรคคืออะไร การแก้ปัญหาของเขาก่อให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นหรือไม่ ถ้าเกิดแล้วแก้อย่างไร ส่วนชงนี้จะต้องทำให้คนดูรู้สึกไปมันเยอะๆ หรือเอาใจช่วยตัวละครของเรามากๆ ซึ่งอันนี้เป็นผลมาจากส่วนปูล้วนๆเลยครับ

ตบ >>> เอาจริงๆได้หลายแบบมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนจุดนี้คือ Peak แล้วสรุปเลย แต่หากเป็นหนังสั้น Peak แบบที่นิยมใช้คือการ Twist หรือหักมุม สิ่งที่ตัวเอกทำมากลับกลายเป็นให้ผลอะไรบางอย่าง หรือมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาเข้าใจผิด และจุดนี้คนดูจะเคลียร์ถึงแก่นสารของเรื่อง //แต่ไม่ Twist ได้มั้ย …คำตอบคือได้เลย แต่ไม่ว่ายังไงมันต้อง Peak นะครับ ไม่ว่าจะ Peak จากการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อย่างที่บอกไป โครงสร้างยาวอาจจะ Peak ด้วย Climax แบบเผชิญหน้าได้ดีเพราะมีเวลา Build แต่ในหนังสั้น Twist อาจจะได้ผลของความ Peak มากกว่า

… ปูให้แน่น ชงให้เข้ม แล้วตบหนักๆ

ปัญหาหลายคนไม่ได้อยู่ที่ตอบตบ แม้ว่าช่วงตบจะไม่ค่อยทำงาน แต่ปัญหามันไม่ได้เกิดที่ตอนตบ แต่หลายครั้งเราก็ไปแก้ส่วนนั้น
สมมุติว่าอยากให้คนดูร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งในตอน Peak
ทีนี้ตัดไปตัดมา ตอน Peak ไม่ซึ้ง ก็แก้มันอยู่นั่น ขยี้เข้าไป เปลี่ยนเพลง ดึงสโลว์ ตัดคัทแคบ สารพัดสารเพที่จะทำ แต่มันก็เหมือนไม่ได้ดีขึ้นมาก
ทำไม!!!… เพราะเราไม่ได้พลาดที่ตอนท้ายไงครับ ตอนท้ายเราดีแล้ว แต่ปัญหามันเกิดที่สองส่วนหน้าต่างหาก
บางคนลืมปูเงื่อนไขบางอย่าง หรือปูแล้วมันไม่ออก มันไม่ชัด แต่ไม่ได้แก้ บางคนใส่รายละเอียดบางอย่างไม่พอในช่วงปู คนดูก็ไม่เข้าใจ และไม่เอาใจช่วยตัวละครของเรา อันนี้จะไปมีผลในช่วงชง และลามมาโดนตอนตบแน่นอน
บางคนชงไม่เข้ม ไม่หนักแน่น ตอนตบหรือตอน Twist มันก็ไม่หนักแน่น พอตบเบาไปคนดูก็ไม่รู้สึก และไม่เก็ตในแก่นสารที่เราวางเอาไว้

ทั้งหมดที่เอ่ยมา มันเป็นเรื่องของการดำเนินเรื่องทั้งสิ้น

เวลา Workshop เราเลยมักจะให้ผู้เข้าร่วมพยายามสร้างเรื่องแบบ สถานการณ์เดียว ที่เราสามารถ ปู ชง ตบ และ Get Theme ได้เลย ให้ลองฝึกแบบสถานการณ์เดียว เป้าหมายเดียว และหัดตบให้ Get Theme ให้ได้ก่อน

สถานการณ์เดียวนี่ละ จะทำให้เราฝึกสร้างเรื่องให้สั้น แต่ยังมีสามองก์ครบได้ เรื่องแบบสถานการณ์เดียวก็ เช่น

ชายเนี๊ยบขี้หงุดหงิดคนหนึ่งที่พยายามจะทำอาหารให้ภรรยาสุดที่รัก แต่หงุดหงิดกับแมลงวันที่มาตอม จึงพยายามหาทางกำจัดแมลงวันด้วยนั้น ด้วยวิธีที่วายป่วงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเขากำจัดแมลงวันได้ แต่อาหารก็ไม่เหลือ บ้านแทบพัง และเขาก็ได้เรียนรู้หรือคนดูก็รู้ว่าเขาควรจะมีสติมากกว่านี้

ลองมาดูกัน
ส่วนปูถ้าจะให้ดีเรื่องนี้อาจจะต้องปูความสำคัญของอาหารมื้อนี้ หรือผลที่จะได้หากภรรยาเขาได้กิน และปูเนี๊ยบของเขา ส่วนความขี้หงุดหงิด เดี๋ยวเราน่าจะเพิ่มเติมได้ในช่วงชง
ถ้าได้ปูความสำคัญส่วนของอาหารมื้อนี้ ตอนที่บ้านพังในตอนท้ายจะทำงาน ตบด้วยภรรยาเขากลับมาเห็น อาจจะแค่นี้แล้วจบเลยก็ยังได้ คนดูน่าจะเก็ตแก่นสารแล้ว
ส่วนช่วงชง เล่นให้เต็มที่ ให้คนดูเห็นว่าความขี้หงุดหงิด และความเนี้ยบของเขาทำให้เกิดอะไรขึ้นได้บ้าง แล้วก็ดีไซน์ให้วายป่วนได้เลย

อะไรแบบนี้ครับ ลองเล่าเรื่องสถานการณ์เดียว ด้วยการใช้ปู ชง ตบ ดูครับ เราน่าจะได้หนังที่สั้นลงแต่สามองก์ครบเครื่องได้ครับ

ปล. สูตรหนังสั้นยังมีอีกหลายแบบ บางคนใช้คำแบบว่า เริ่มต้น ตั้งหลัก หักมุม บางคนก็บอกว่า Set up Then Twist ซึ่งเดี๋ยวเอาไว้คุยกันในคราวถัดๆไปครับ แต่เริ่มต้นทำ ทำแบบที่ชอบ ทำแบบที่เชื่อกันก่อนครับผม…

http://moviediy.net/home/2021/moviediy-clinic/%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99/




























































ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม