สีลูไซด์ (Lucite ) , สีโซลิด (Solid) จะมีเพียงชั้นเดียว , สีเมทัลลิค (Metallic) จะมีอยู่ 2 ชั้น

 เรียนรู้เรื่อง “สีพ่นรถยนต์” กันก่อนมั้ย.....

https://www.facebook.com/MoreWash/posts/713376818770268/

>>>โดยปกติรถสีขาวที่จำหน่ายอยู่ทั่วไปนั้น มักจะเป็นสีโซลิด (Solid) ไม่มี เมทัลลิค (Metallic) ซึ่งเนื้อสีจะดูเรียบด้าน เหมือนสีน้ำทั่วไป แต่ก็จะมีความเงางามในระดับหนึ่ง
>>>ส่วนรถสีอื่นที่อยู่ในตลาด จะเป็นสีลูไซด์ (Lucite ) หรือ สีเมทัลลิค (Metallic) ซึ่งจะมีส่วนผสมผงโลหะ ที่เรียกว่า Metallic ด้วยตัวสีเองจะไม่มีความเงางาม จะต้องมีการพ่นเคลือบเคลียร์ทับอีกหนึ่งชั้น เพื่อให้เกิดความเงางาม แวววาว และป้องกันผงโลหะเหล่านั้นหลุดร่อน เราเรียกว่า เคลียร์โค๊ท หรือ แลคเกอร์ นั่นเอง
ขั้นตอนในการพ่นสีจริง
- สำหรับสีโซลิด (Solid) จะมีเพียงชั้นเดียว
- ส่วนสีเมทัลลิค (Metallic) จะมีอยู่ 2 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1 จะเป็นชั้นสี
ชั้นที่ 2 จะเป็นชั้นสารเคลือบเงาในประเภทแลคเกอร์ หรือเคลียร์โค๊ท
ง่ายๆ นะ ก่อนตัดสินใจซื้อ ถาม Sale ก่อนครับว่า ถ้าจะเพิ่มสีรถจากสีโซลิด (Solid) เป็น สีลูไซด์ (Lucite ) หรือ สีเมทัลลิค (Metallic) ได้หรือไม่ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่?
: ซึ่งโดยปกติการเพิ่มราคาค่าสีจากรถรุ่นที่เป็นสีโซลิด (Solid)เป็น สีลูไซด์ (Lucite ) หรือ สีเมทัลลิค (Metallic)นั้น ประมาณ 7,000-8,000 บาทแล้วแต่ รุ่นรถ ยี่ห้อ
ถ้าไม่ทัน เพราะซื้อมาแล้ว....ก็ต้องหมั่นดูแลรักษา เพราะรถรุ่นที่เป็นสีโซลิด (Solid) นั้น ความเงางามที่เคลือบทับมาในครั้งแรก จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยเหมือนกัน) จากนั้นผิวสีรถจะด้านๆ (สังเกตดูหลังล้างรถ จะเห็นชัด) ทำการ Treatment บ้าง อย่าปล่อยจนเหลือง แล้วค่อยทำ...จะไม่สามารถช่วยอะไรได้
อย่าจอดตากแดด ตากฝน อย่าลืมว่า สีโซลิด (Solid) มันพ่นชั้นเดียว..ภาษาง่ายๆ ก็คือ สีมันบาง...นั่นแหละ นอกจากจะเหลืองแล้ว...ลองสังเกตให้ดี ว่ารถคุณ จะเริ่มมีจุดสนิม..เล็กๆๆ จากนั้น ก็จะขยายใหญ่...จนสีร่อน จะเห็นสนิมใหญ่ชัดเจนมากขึ้น....
คำถามตามมา.....แล้วถ้าเป็นสนิมทำอย่างไร... ผมคงตอบได้สั้นๆว่า...ทำสีใหม่ครับ…งานนี้ก็จะได้สีขาว (ขาวโอโม่) กลับมาอีกครั้งนึง^^

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม