มารู้จักระเบิดขว้างชนิดต่างๆกัน
มารู้จักระเบิดขว้างชนิดต่างๆกัน
ช่วงนี้มีข่าวระเบิด ธนาคาร สถานที่ราชการ ที่พักบุคคลสำคัญบ่อยครับ เรามาทำความรู้จักกับระเบิดขว้างชนิดต่างๆ กันดีกว่า
เริ่มแรกเลย กำลังดัง ระเบิดชนิดนี้มีผิวเกลี้ยง ใบกลมเท่าผลส้ม ชาวบ้านคุ้นกันดีในชื่อ “ลูกส้ม” ทางการเรียก ลข.88 บ 67 วงการระเบิดเรียกว่า รุ่น M67 ระเบิดรุ่นนี้ใช้เปลือกนอก เป็นสะเก็ด เวลาระเบิด สะเก็ดจะแตกออกเป็นรูปไข่ปลา มีอำนาจทำลายล้างในรัศมีฉกรรจ์ จากจุดระเบิด ตั้งแต่ 10-15 เมตรขึ้นไป
ต่อมาเป็น MK2 เป็นที่นิยมมาก ในหมู่จิ๊กโก๋บ้านเรา ต่างรู้จักกันในนาม "น้อยหน่า" ภาษาราชการเรียกว่า ลข.88 บ 2 เนื่องจากสภาพของพื่นผิวของมัน MK2 ภายในบรรจุ TNT นน.21 ออนซ์ มีชวนถ่วงเวลา 4-5 วินาที อานุภาพรัศมีทำลายล้างประมาณ10-15 ม.
อีกรุ่นที่นิยมไม่แพ้กันคือ M26 หรือเรียกว่า "ลูกเกลี้ยง" อันเนื่องมาจากลักษณะผิวเช่นกัน ลูกเกลี้ยงนั้นมี 2แบบคือ
ลข.88บ26 ภายในบรรจุระเบิดคอมโพสิชั่นB มีชนวนถ่วงเวลา4-5วินาทีเช่นกันมีน้ำหนัก 26 ออนซ์ รัศมีทำลายล้าง15 ม. ส่วนอีกรุ่นคือ
ลข.88บ61 ลักษณะโดยรวมใกล้เคียงกันแต่ต่างกันตรงที่ขอรัดคล้องคอ และกระเดื่องนิรภัย ภาษาสากลเรียกว่า รุ่น M61
ระเบิดขว้างสังหารที่นิยมอีกแบบหนึ่งคือ V40 มีชื่อทางราชการว่า ลข.12 ลักษณะทรงกลมเหมือนมะนาวแต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้แล้ว รุ่นนี้ใช้เปลือกภายนอกเป็นสะเก็ด มีอำนาจทำลายล้างอยู่ในรัศมีฉกรรจ์ตั้งแต่ 6 เมตร จากจุดระเบิด ในอดีตทางการตำรวจเคยมีใช้ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) แต่ปัจจุบันจำหน่ายยอด (กำจัดทิ้ง) หมดแล้ว
น้องๆอาจสงสัย ปกติทุกเหล่าทัพมีไว้เพื่อใช้ในภารกิจการฝึก และป้องกันประเทศ ไฉนจึงหลุดรอดออกมาเพ่นพ่านนอกรั้วทหาร
คาดว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวตะเข็บชายแดนไทยรอบด้าน สถานการณ์ไม่สงบ อาจมีการหลุดรอด มาจากชนกลุ่มน้อย กองกำลังต่างชาติ และเพื่อนบ้าน ซึ่งค้าอาวุธสงครามกับผู้มีอิทธิพล ในเมืองไทย
นอกจากจะใช้วิธีขว้างกันแล้วยังมีวิธีการใช้ระเบิดอีกมากตามแต่สถานการณ์ แต่ที่นิยมคือการลอบวางระเบิดเพราะไม่ต้องปะทะกับเจ้าหน้าที่โดยตรง รูปแบบการวางระเบิดที่แพร่หลายมี3แบบคือ
วิธีแรก วางในรูปของ กับดัก
น้องๆ น่าจะคุ้นเคยกับคำนี้ ลองหลับตาแล้วนึกถึงสงครามเวียตนามหรือหนังแรมโบ้เอา การวางระเบิดกับดักแบบนี้มีรูปแบบคือต้องฝังดินหรือเส้นทางที่เป้าหมายคาดว่าจะผ่าน เมื่อเหยียบโดนปุ่มป๊าบระเบิดก็จะทำงานทันที
อานุภาพของมันทำให้ขาขาดได้ทันทีและยังเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ระเบิดแบบนี้
เขตชายแดนเขมรก็มีมาก ฝังไว้ฆ่ากันเอง จนปัจจุบันก็ยังเก็บกู้กันไม่หมด นอกจากจะใช้สังหารบุคคลแล้ว
ยังใช้ทำลายยานพาหนะของข้าศึกได้ เช่น รถบรรทุก รถถัง ซึ่งระเบิดจะทำลายสายพานรถถังหรือเกราะใต้ท้องรถ แต่ต้องใช้ระเบิดที่อานุภาพทำลายล้างที่รุนแรงกว่าเดิม
เราจะเห็นว่า ในหนังสงครามมักมีการทำกับระเบิดแบบง่ายๆ คือใช้ระเบิดขว้างวางไว้ที่พื้นดินโดยผูกเชือกหรือลวดกับตัวกระตุกสลัก เมื่อเป้าหมายเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดูตาม้าตาระเบิดก็จะมาเตะลวดที่ว่านี้ ก็ตูมตามกันไป
การวางระเบิดแบบที่2 คือ ระเบิดเวลาโดยระเบิดจะทำงานเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ โดยจะมีส่วนที่เป็นระเบิดกับส่วนที่เป้นนาฬิกาที่มีตัวควบคุมการจุดชนวนอีกที ระเบิดเวลาแบบนี้คนร้ายยต้องรู้พฤติกรรมของเป้าหมายเป้นอย่างดี เช่น ถ้าอยากระเบิดดรงอาหารต้องเลือกเวลาที่คนเยอะที่สุด คือช่วงเที่ยง แต่ถ้าอยากจะแค่ข่มขู่ อาจจะวางในเวลาที่คนไม่ค่อยเยอะ เช่นบ่ายสอง
ระเบิดเวลายุคแรกๆ กลไกจะง่ายๆคือใช้สายไฟผูกปลายเข็มไว้
เมื่อเข็มเดินมาทับกันปลายสายไฟก็จะเดินครบวงจรทำให้เกิดระเบิด ต่อมาได้พัฒนาจนเป็นระเบิดเวลาสำเร็จรูปที่มีทั้งนาฬิกาและแม่เหล็กในตัวเพื่อเอาไว้แปะในพื้นผิวที่เป็นโลหะ สะดวก ไม่ต้องเจาะ ผูกหรือมัด
นึกถึงนักทำลายใต้น้ำเอาระเบิดไปแปะเพื่อทำลายเรือหรือแนวป้องกันใต้น้ำก็ได้ครับ
แบบที่3 คือระเบิดแสวงเครื่อง คงเคยได้ยินกันมาบ้างแต่คงจะงง ว่าเอ๊ะมันแสวงกันยังไง ระเบิดแสวงเครื่องก็คือระเบิดที่ทำงานโดยอาศัยชุดควบคุมหรือรีโมทสมัยก่อนชุดควบคุมก็คือสายไฟแบบหนังสงคราม
คือซุ่มรอดูเป้าหมายว่าถ้าผ่านเข้ามาในพื้นที่สังหารเมื่อไหร่ก็จะสับสวิชท์ให้ระเบิดทำงานต่อมาได้พัฒนาใช้ชุดควบคุมไร้สายโดยใช้สัญญาณวิทยุแต่มีข้อเสียคือถูกรบกวนได้ง่าย ไม่แน่นอน
ยิ่งโลกเราพัฒนาเทคโนโลยีไปเท่าใด ระเบิดก็พัฒนาตามไปเช่นกันปัจจุบันใช้การจุดชนวนจากโทรศัพท์มือถือเพราะสะดวกมีขนาดเล็ก จะซุกซ่อนที่ไหนก็ได้ยากต่อการตรวจค้น แถมยังจับคนกดไม่ได้ซะอีก ถ้าไม่ซวยมีคนโทรผิดเข้ามาซะเองระเบิดแสวงเครื่องในปัจจุบันจึงเป้นเครื่องมือสังหารที่อำหิตมาก
ข้อแนะนำเบื้องต้น
ข้อแรก เมื่อพบเห็นวัตถุต้องสงสัย หรือเกรงว่าจะเป็นภาชนะบรรจุระเบิด อย่าทำตัวเป็นคนขี้สงสัย หรือใจถึงโชว์หญิง ตรงรี่เข้าไปสัมผัส ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด เพื่อรอประสานไปยังหน่วยตำรวจหรือทหาร ซึ่งมีภารกิจในการเก็บกู้ระเบิดโดยตรง
ใน กทม.และปริมณฑล แจ้งได้ที่ 0-2241-0035 หรือ 0-2241-3341-5 ต่างจังหวัดแจ้งได้ตามหน่วย ตชด.ในพื้นที่ หรือหน่วยทหารช่าง และทหารสรรพาวุธ ประจำกองทัพภาคต่างๆ
ข้อถัดมา เจ้าของสถานที่หรือผู้รับผิดชอบ ควรทำเครื่องหมายบอกตำแหน่งที่วัตถุต้องสงสัยตั้งอยู่ แล้วหาสิ่งกีดขวางมาปิดกั้นมิให้บุคคลภายนอกเข้าไป
หากสิ่งต้องสงสัยวางอยู่ภายในห้องหรือในที่รโหฐาน ให้เปิดประตู หน้าต่างทุกๆบานให้มากที่สุด เพื่อลดอำนาจแรงผลักดันจากการระเบิดที่อาจเกิดขึ้น
หากมีบุคคลอยู่ในอาคารสถานที่ ให้อพยพออกจากพื้นที่ทันที เคลื่อนย้ายสิ่งของและวัสดุที่ติดไฟง่าย ออกจากพื้นที่ (เท่าที่ทำได้) ในรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร
ข้อสุดท้าย ให้จัดหาวัสดุมาวางล้อมสิ่งต้องสงสัย เช่น กระสอบทราย หรือยางนอกรถยนต์ อย่างหนา เพื่อลดอำนาจทะลุทะลวงของสะเก็ดระเบิด ในยามที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/909089
ที่มา: http://mrtiddin.blogspot.com/2010/04/blog-post.html
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/909089
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น